พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
2010751 VIEWS | 3 MINS READ Tuesday 22 / 03 / 2022
ในภาษาไทย เราสามารถบอก วัน เดือน ปี เรียงตามนี้ได้เลย เช่น 18 กันยายน 2558 แต่ในภาษาอังกฤษ มีกฏและวิธีใช้ที่แตกต่างกัน แถมยังแบ่งเป็นการบอก วัน เดือน ปี แบบอเมริกันและอังกฤษ
ถ้าหากอยากใช้ให้ถูกต้อง เราจึงจำเป็นต้องรู้ทั้งสองแบบค่ะ เพื่อไม่ให้สับสนและไม่เอามาใช้ปนกัน
วันนี้ Globish มีทริคง่าย ๆ มาฝาก ทั้ง How to การเขียน วัน เดือน ปี ที่ถูกต้อง, ชื่อเดือนทั้ง 12 เดือนในภาษาอังกฤษ, วันและวันที่ในภาษาอังกฤษ เตรียมเซฟเก็บไว้ช่วยชีวิตกันได้เลย
ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูวิธีการพัฒนาภาษาได้ที่ คลิก
#ไม่รู้ตกเทรนด์ 10 คำศัพท์อังกฤษเกิดใหม่ในช่วง WFH
รวม 30 Phrasal verb ที่ห้ามแปลตรงตัว
44 คำขึ้นต้นและลงท้ายอีเมล ที่ต้องรู้ #ใช้ได้ทุกสถานการณ์
การเขียนวัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษหรือบริทิช มักจะเรียงแบบ วัน เดือน ปี เหมือนที่คนไทยใช้กัน เราจึงมักจะใช้แพทเทิร์นนี้บ่อย ๆ แต่การเขียนวัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน จะเป็นแบบ เดือน วัน ปี
แล้วถ้าไม่รู้ว่าใช้แบบไหนถึงจะถูก ทำไงดี!? จริง ๆ แล้วในภาษาอังกฤษ มี The International Date Format (ISO8601) นั่นก็คือ YYYY-MM-DD เช่น 2022-05-11 เพื่อป้องกันการสับสน สามารถใช้แบบนี้ได้เลย
1. แบบอังกฤษ (บริทิช) : วัน เดือน ปี Day-Month-Year
1.1 การเขียนแบบทั่วไป
เช่น
วันที่ 14 กันยายน 2022
➜ 14 Sept
➜ 14 September
➜ 14 September 2022
➜ 14th September 2022
➜ the 14th of September 2022
➜ the 14th of September, 2022
1.2 เขียนสัปดาห์
➜ Wednesday, 14 September 2022
➜ Wednesday the 14th of September, 2022
1.3 เขียนแบบตัวเลข
➜ 14/9/22
➜ 14-9-2022
➜ 14/09/2022 หรือ 14-09-2022
➜ 14 Sept 2022 หรือ 14-Sept-2022
2. แบบอเมริกัน : เดือน วัน ปี Month-Day-Year
2.1 การเขียนแบบทั่วไป
เช่น
วันที่ 14 กันยายน 2022
➜ Sept 14
➜ September 14
➜ September 14, 2022
2.2 เขียนสัปดาห์
➜ Wednesday, September 14, 2022
1.3 เขียนแบบตัวเลข
➜ 09/14/22 หรือ 09-14-22
➜ 09/14/2022 หรือ 09-14-2022
➜ Sept. 14, 2022
นอกจากวิธีเขียนวัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษทั้งแบบบริทิชและอเมริกัน การใช้คำย่อให้ถูกต้องก็สำคัญ ถ้าหากอยากย่อเดือนหรือวันในภาษาอังกฤษ สามารถใช้คำย่อภาษาอังกฤษตามนี้ได้เลย
1. January (Jan.) = เดือนมกราคม
2. February (Feb.) = เดือนกุมภาพันธ์
3. March (Mar.) = เดือนมีนาคม
4. April (Apr.) = เดือนเมษายน
5. May (May) = เดือนพฤษภาคม
6. June (Jun.) = เดือนมิถุนายน
7. July (Jul.) = เดือนกรกฎาคม
8. August (Aug.) = เดือนสิงหาคม
9. September (Sept.) = เดือนกันยายน
10. October (Oct.) = เดือนตุลาคม
11. November (Nov.) = เดือนพฤศจิกายน
12. December (Dec.) = เดือนธันวาคม
1st - first
2nd - second
3rd - third
4th - fourth
5th - fifth
6th - sixth
7th - seventh
8th - eighth
9th - ninth
10th - tenth
11th - eleventh
12th - twelfth
13th - thirteenth
14th - fourteenth
15th - fifteenth
16th - sixteenth
17th - seventeenth
18th - eighteenth
19th - nineteenth
20th - twentieth
21st - twenty-first
22nd - twenty-second
23rd - twenty-third
30th - thirtieth
31st - thirty-first
1. Monday (Mon.) = วันจันทร์
2. Tuesday (Tue.) = วันอังคาร
3. Wednesday (Wed.) = วันพุธ
4. Thursday (Thu.) = วันพฤหัส
5. Friday (Fri.) = วันศุกร์
6. Saturday (Sat.) = วันเสาร์
7. Sunday (Sun.) = วันอาทิตย์
จะเห็นได้ว่า การเขียนวันเดือนปีภาษาอังกฤษนั้นมีความแตกต่างกันในแต่ละภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตำแหน่งการเขียนเดือนในภาษาอังกฤษ หากติดต่อหรือร่วมงานกับบริษัทไหน อย่าลืมดูวิธีการเขียนเดือนภาษาอังกฤษขององค์กรเหล่านั้นให้ดีก่อนด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก:
Ielts
www.getproofed.com
เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ