เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

738842 VIEWS | 5 MINS READ Friday 08 / 10 / 2021


 

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที 

แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

 

จะเปลี่ยนจากประโยค Active Voice เป็น Passive Voice ทำยังไงดี? เมื่อไหร่ควรใช้ประโยค Passive Voice? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยทริคจาก Globish ที่จะทำให้คุณไม่ต้องท่องจำ และใช้เวลาเพียง 5 นาที คุณก็สามารถใช้ Passive Voice ได้อย่างมือโปร

 

ในภาษาอังกฤษ มี Active และ Passive Voice เพื่อบอกว่าใครทำอะไร หรือใครที่กำลังถูกกระทำ แต่ถ้าอธิบายเพียงเท่านี้ อาจจะทำให้งง วันนี้ Globish เลยจะพามาดูวิธีใช้เจ้า Active และ Passive Voice อย่างละเอียด 

 

ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่อง Active และ Passive Voice บอกเลยว่าช่วยได้มากค่ะ

 

ถ้าอยากเก่งอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูวิธีการพัฒนาภาษาได้ที่ คลิก

 

5 ข้อต้อง "ข้าม" เมื่อเริ่มฝึกภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษผิดไม่รู้ตัว 12 ข้อผิดพลาดที่คนมักใช้ผิด

ฝึกจับใจความภาษาอังกฤษ ด้วยทฤษฎี GTM

 

Active Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง เช่น

My mother bought that car. (แม่ของฉันซื้อรถคันนั้น)
My mother เป็นประธาน ทำกริยา (bought) โดยตรง

Jane cooked dinner yesterday. (เจนทำอาหารเย็นเมื่อวานนี้)
Jane เป็นประธาน ทำกริยา (cooked) โดยตรง

 

Passive Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำโดยกริยา เช่น

That car was bought by my mother. (รถคันนั้นถูกซื้อโดยแม่ของฉัน)
That car เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (bought)

Dinner was cooked by Jane yesterday. (อาหารเย็นถูกทำโดยเจนเมื่อวานนี้)
Dinner เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (cooked)

 

รูปแบบของ Passive Voice

Passive voice ในภาษาอังกฤษจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่  
to be + กริยาช่อง 3 (Past Participle)

 

การเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice ตาม Tense

V. ย่อมาจาก Verb

 

 

ตัวอย่าง

 

Present Simple:

Jane feeds the dog. The dog is fed by Jane.

 

Present Continuos:

Jane is feeding the dog. The dog is being fed by Jane.

 

Present Perfect:

Jane has feeded  the dog. The dog has been fed by Jane.

 

Present Perfect Continuous:

Jane has been feeding  the dog. The dog has been being fed by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Past Simple:

Jane feeded the dog. The dog was fed by Jane.

 

Past Continuos:

Jane was feeding the dog. The dog was being fed by Jane.

 

Past Perfect:

Jane had feeded  the dog. The dog had been fed by Jane.

 

Past Perfect Continuous:

Jane had been feeding  the dog. The dog had been being fed by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Future Simple:

Jane will feed the dog. The dog will be fed by Jane.

 

Future Continuos:

Jane will be feeding the dog. The dog will be being fed by Jane.

 

Future Perfect:

Jane will have feeded  the dog. The dog will have been fed by Jane.

 

Future Perfect Continuous:

Jane will have been feeding the dog. The dog will have been being fed by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

can, could สามารถ:

Jane can feed the dog. The dog can be fed by Jane.

Jane could feed the dog. The dog could be fed by Jane.

 

may, might อาจจะ:

Jane may feed the dog. The dog may be fed by Jane.

Jane might feed the dog. The dog might be fed by Jane.

 

must, ought to ควรจะ:

Jane must feed the dog. The dog must be fed by Jane.

Jane ought to feed the dog. The dog ought to be fed by Jane.

 

have to, has to ต้อง:

Jane has to feed the dog. The dog has to be fed by Jane.

They have to feed the dogs. The dogs have to be fed by them.

 

 

ไม่อยากท่องจำ Passive Voice ทำไงดี?

 

อันดับแรกเลย ต้องจำโครงสร้างแต่ละ Tense ให้ได้ก่อนค่ะ เพื่อนำโครงสร้าง Tense มาบวกกับโครงสร้างของ Passive Voice นั่นก็คือ to be + V.3 (Past Participle) โดยตัว be จะต้องบวกกับ Verb แท้ แล้วผันตามรูปของมัน นั่นก็คือ

 

Verb infinitive ของ be  be
Verb ช่อง 1 ของ be is, am are
Verb ช่อง 2 ของ be was, were
Verb ช่อง 3 ของ be been

 

 และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็คือโครงสร้างประโยค Passive Voice ที่ผันตาม Tense ต่าง ๆ นั่นเองค่ะ

 

ตัวอย่าง

 

 

 

กริยาที่ใช้กับ Passive Voice ไม่ได้

 

1) กริยาที่ไม่ต้องกรรมมารองรับ (Intransitive Verb) เช่น

act แสดง

explode ระเบิด

arrive มาถึง

go ไป

come มา 

laugh หัวเราะ

lie โกหก

continue ดำเนินการต่อ

cry ร้องไห้

run วิ่ง

die ตาย

swim ว่ายน้ำ

immigrate อพยพ

respond โต้ตอบ

sing ร้องเพลง

sit นั่ง

smile ยิ้ม

 

นอกจาก Intransitive Verb ยังมี Verb ประเภทอื่น ๆ อีกนะคะ อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง คลิกเลย

 

2) กริยาพิเศษ ได้แก่

has มี

fit พอดี

suit เหมาะสม

lack ขาดแคลน

 

3) กริยาที่มีความหมายว่า “เป็น, อยู่, คือ” ได้แก่

is, am, are เป็น, อยู่, คือ

smell ได้กลิ่น

become กลายเป็น

feel รู้สึก

appear ปรากฏ

get เอา, ได้รับ

look ดูเหมือนว่า

taste มีรสชาติ

 

 

3 สถานการณ์ที่ ประโยค Passive Voice ไม่ต้องการ By

 

ตัวอย่างที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่านอาจจะสังเกตุเห็นว่าประโยค Passive Voice ต้องมี by 

เช่น The boy was bitten by the dog.

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประโยค Passive Voice ไม่จำเป็นต้อมี By เสมอไปค่ะ ถ้าหากอยู่ใน 3 สถานการณ์เหล่านี้

 

1) เมื่อต้องไม่ต้องการพูดถึงผู้กระทำ เพราะไม่สำคัญหรือรู้กันอยู่แล้ว เช่น

Champagne is used to commemorate joyous occasions.

แชมเปญถูกใช้เพื่อฉลองโอกาสสุดพิเศษ

 

2) ประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ ได้แก่

It is believed that เชื่อกันว่า

It is said that กล่าวกันว่า

It is expected that คาดกันว่า

It is hoped that หวังกันว่า

 

Tips: หลัง that ต้องตามด้วยประโยค เช่น

It is believed that drinking cold water makes a period stop.

เชื่อกันว่าการกินน้ำเย็นตอนมีประจำเดือนจะทำให้เลือดหยุดไหล

 

3) เมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ เช่น

My cat was kidnapped on Monday morning.

แมวของฉันถุกขโมยไปเมื่อวันจันทร์ตอนเช้า

 

ขอบคุณข้อมูลจาก:

เว็ปไซต์ EF

หนังสือเก่ง Grammar ก่อนสอบ

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน

ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

 

วัดระดับภาษาอังกฤษ คลิก

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี


   หรือ    โทรเลย 02-026-6683

บทความที่แนะนำ


Tips and Tricks

8 คำพูดแย่ๆ ที่ทำให้คุณไม่เก่งภาษาอังกฤษ

วัยทำงาน

ฝึกภาษากับ Grammar Guide จาก Globish Plus

วัยทำงาน

สับแหลก Verbs 5 ประเภท #ฉบับรวบรัด