สรุปวิธีการใช้ If clause #แบบกระชับ #เข้าใจง่าย

780577 VIEWS | 5 MINS READ Wednesday 13 / 10 / 2021


สรุปวิธีการใช้ ❝ If clause ❞

#แบบกระชับ #เข้าใจง่าย



If clause หรือ Conditional sentence (ประโยคเงื่อนไข) คือ ประโยคที่ผู้พูดสมมติว่าถ้ามีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น จะมีผลหรือเหตุการณ์อื่นๆ เกิดขึ้นตามมา

 

Conditional sentence ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

1) If clause ส่วนที่เป็นเงื่อนไข ขึ้นต้นด้วย If 

2) Main clause ส่วนประโยคหลักที่เป็นผลมาจากเงื่อนไข If clause

 

ประโยค If clause สามารถแบ่งได้ 2 แบบเช่นกัน

1) ถ้าหากส่วนที่เป็น If clause ขึ้นก่อน เมื่อจบประโยคจะต้องคั่นด้วย , (comma) เสมอ แล้วค่อยตามด้วย Main clause เช่น

If I were you, I wouldn’t love him.

2) ถ้าหากส่วนของ Main clause ขึ้นก่อน จะต่อด้วย If clause เลยโดยไม่มี , (comma) คั่น เช่น

I wouldn't love him if I were you.

 

นอกจากเรื่อง If clause หรือ Conditional sentence แล้ว ยังมี 8 กฎเหล็กแกรมม่าที่ควรรู้ คลิกเลย ซึ่งถ้าคุณลองนำปรับไปใช้ ภาษาอังกฤษของคุณจะดูโปรมากยิ่งขึ้น หรือถ้าอยากรู้ว่าคุณใช้ภาษาได้ดีแค่ไหน ลองมาเช็คกันดูว่าประโยคภาษาอังกฤษเหล่านี้ คุณกำลังใช้ผิดอยู่รึเปล่า ดู 10 ประโยคปราบเซียนที่คนชอบใช้ผิด คลิกเลย



4 ประเภทของประโยค If clause หรือ Conditional sentence

 

 1) ZERO Conditional Sentence

 

 

1.1) If Present Simple, Present Simple

 

วิธีใช้: ใช้กับเงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ ใช้พูดถึงความจริงตามธรรมชาติ หรือข้อเท็จจริงทั่วไป

เช่น

If you stand in the rain, you get wet.

ถ้าคุณตากฝน คุณจะเปียก

 

If you are under 18, drinking alcohol is illegal.

ถ้าคุณอายุต่ำกว่า 18 ปี การดื่มเครื่องดืมแอลกอฮอล์จะผิดกฎหมาย

 

I get tired if I work too much.

ฉันจะเหนื่อยถ้าฉันทำงานหนักไป

 

2) FIRST Condition Sentence

 

 

 

2.1) If Present Simple, Future Simple

 

วิธีใช้: ใช้อธิบายว่า ถ้าหากเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น อีกเหตุการณ์หนึ่งก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น

 

เช่น

If it does not rain, we will go to the park.

ถ้าฝนไม่ตก เราจะไปสวนสาธารณะกัน

 

If you don’t review the lessons, you will not pass the exam.

ถ้าคุณไม่ทบทวนบทเรียน คุณจะสอบไม่ผ่าน

 

We will stay at home if it rains.

เราจะอยู่บ้านถ้าฝนตก

 

2.2) If Present Simple, Imperative Form

 

วิธีใช้: ประโยคคำสั่ง ใช้แนะนำหรือสั่งใครว่าควรทำอะไร เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น รูปประโยคของ Imperative Form จะขึ้นต้นด้วยคำกริยา

 

เช่น

If you visit Bangkok, please send me a postcard.

ถ้าคุณมาเที่ยวกรุงเทพฯ ช่วยส่งโปสต์การ์ดหาฉันด้วยนะ

 

If you arrive at the airport, don’t forget to call me

ถ้าคุณมาถึงสนามบินแล้ว อย่าลืมโทรหาฉัน

 

2.3) If Present Simple, Modal Verb

 

วิธีใช้: ใช้อธิบายว่า ถ้าหากเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น อีกเหตุการณ์หนึ่งก็อาจจะเกิดขึ้นโดยใช้ Modal Verb แทน Future Simple Tense ซึ่ง Modal Verb ได้แก่ 

will, would = จะ

shall, should = จะ, น่าจะ, ควรจะ

can, could = สามารถ

may, might = อาจจะ

must = ควรจะ

 

เช่น

If you are free, we can go for a walk.

ถ้าคุณว่าง เราไปเดินเล่นกันได้นะ

 

You can count on me if you have a problem.

คุณพึ่งพาฉันได้นะ ถ้ามีปัญหา

 

If we don’t get a taxi now, we might arrive late. 

ถ้าเราไม่เรียกแท็กซี่ตอนนี้ เราอาจจะไปสาย

 

 

3) SECOND Conditional Sentence

 


 

 

3.1) If Past Simple, Subject + would + Verb infinitive

 

วิธีใช้: ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในปัจจุบันและอนาคต หรือใช้สมมติสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน

 

เช่น

If I knew the answer, I would tell you.

ถ้าฉันรู้คำตอบ ฉันจะบอกเธอนะ (แต่ตอนนี้ไม่รู้)

 

If I didn’t have any friends, I would be lonely.

ถ้าฉันไม่มีเพื่อนเลย ฉันคงจะเหงาแย่ (แต่ปัจจุบันมีเพื่อน ไม่เหงา)

 

If I were you, I would forget about him.

ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะลืมเรื่องของเราให้หมดเลย 

(แต่ฉันเป็นเธอไม่ได้ และเธอก็ยังไม่ลืมเขา)

 

 

4) THIRD Condition Sentence

 

 

 

4.1) If Past Perfect, Subject + would + have + V.3 

 

วิธีใช้: ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความจริงในอดีต ซึ่งไม่เป็นไปตามผู้พูดคาด และรู้สึกเสียดายหรือเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป หรือไม่ได้ทำในอดีต

 

เช่น

If you had told me you were coming, I would have bought more food.

ถ้าคุณบอกผมล่วงหน้าว่าคุณจะมา ผมก็จะได้ซื้ออาหารมามากกว่านี้แล้ว

(แต่เธอไม่ได้บอกล่วงหน้า เลยซื้ออาหารมาไม่พอ)

 

If my sister had studied hard, she would have passed the exam.

ถ้าน้องสาวฉันตั้งใจเรียนกว่านี้ เธอคงสอบผ่านไปแล้ว

(แต่น้องสาวไม่ตั้งใจเรียน เลยสอบตก)

 

What would you have studied if you hadn’t done engineering?

คุณจะเรียนอะไรถ้าไม่ได้เรียนวิศวะ

(ตอนนี้เรียนวิศวะ)

 

 

การใช้ If clause ในรูปแบบอื่น ๆ

 

1) Unless + Affirmative Verb (กริยาในรูปบอกเล่า)

Unless มีความหมายว่า “ถ้าไม่…” มีความหมายเหมือนกับ If...not สามารถใช้แทนประโยคส่วนที่เป็น If cluase เท่านั้น และต้องใช้กับ Present Simple Tense และ Past Simple Tense

 

เช่น

Unless you try harder, you won’t win the competition

If he doesn’t try harder, he won’t win the competition.

ถ้าคุณไม่พยายามให้มากกว่านี้ คุณจะไม่ชนะการแข่งขันหรอก

 

You will regret it later unless you listen to your mother.

You will regret it later if you don’t listen to your mother.

คุณจะเสียใจทีหลังถ้าคุณไม่ฟังแม่ของคุณ



การใช้ If clause หรือ Conditional sentence ไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมคะ ถ้าอยากใช้คล่อง อย่าเอาแต่ท่องจำ แต่ต้องนำไปใช้ในชีวิตจริงด้วยนะคะ

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน

ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

วัดระดับภาษาอังกฤษ คลิก

 

 

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี


   หรือ    โทรเลย 02-026-6683

บทความที่แนะนำ


วัยทำงาน

สับแหลก Verbs 5 ประเภท #ฉบับรวบรัด

วัยทำงาน

รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

วัยทำงาน

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ